ใครที่เคยประสบอุบัติเหตุล้มเข่ากระแทกพื้น อาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยและปล่อยให้อาการหายเอง แต่รู้ไหมว่าการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงในอนาคตได้ วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาที่ถูกต้องเมื่อล้มหัวเข่ากระแทกพื้น
ล้มเข่ากระแทกพื้น อย่ามองข้าม อาการบาดเจ็บที่อาจกลายเป็นเข่าเสื่อม
อุบัติเหตุล้มเข่ากระแทกพื้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย บางคนอาจจะรู้สึกแค่เจ็บช้ำเล็กน้อยและไม่สนใจ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะแรงกระแทกจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ นี้ อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างสำคัญภายในข้อเข่าได้ เช่น เส้นเอ็น หมอนรองกระดูก หรือกระดูกอ่อน ทำให้เกิดการบาดเจ็บสะสมและนำไปสู่ภาวะข้อเข่าเสื่อมในระยะยาวโดยที่เราไม่รู้ตัว
ล้มเข่ากระแทกพื้น อย่าปล่อยให้ปวดเข่านานเกิน 1 เดือน
หลายคนอาจจะคิดว่าล้มหัวเข่ากระแทกพื้นแล้วปล่อยให้หายเองก็ได้ แต่หากคุณสังเกตว่าอาการปวดเข่าไม่ดีขึ้นและยังคงปวดนานเกิน 1 เดือน นั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าอาจมีปัญหาภายในข้อเข่า เช่น การอักเสบเรื้อรังของเส้นเอ็น หรือหมอนรองกระดูกเข่าฉีกขาด ซึ่งหากปล่อยไว้นานเกินไป การรักษาก็จะยิ่งยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก
3 อาการหลักที่ควรสังเกตหลังล้มเข่ากระแทกพื้น
หลังเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มเข่ากระแทก ควรเฝ้าระวังและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการลุกลามของอาการบาดเจ็บ ลองดู 3 อาการหลักเหล่านี้ หากเกิดขึ้นควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที
1. มีอาการปวดเข่า เข่าบวมแดง
อาการ ปวดเข่า เข่าบวม แดงเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ปกติเมื่อลื่นล้มเข่ากระแทก แต่หากอาการปวดไม่ลดลงหลังผ่านไป 1 สัปดาห์ หรือแย่ลงกว่าเดิม นั่นแสดงว่าการอักเสบภายในอาจรุนแรงกว่าที่คิด และอาจมีการบาดเจ็บที่รุนแรงกว่าแค่ภายนอก เช่น เอ็นเข่าฉีก หรือหมอนรองกระดูกเข่าฉีก ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี
2. มีอาการบวมน้ำ
หากพบว่าหลังล้มเข่ากระแทกพื้นแล้วมีอาการบวมจนเกิดรอยแดง และไม่มีรอยบุ๋มบริเวณลักยิ้มใกล้ลูกสะบ้าเหมือนปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณของอาการบวมน้ำ ซึ่งเกิดจากการที่เยื่อหุ้มข้อสร้างน้ำหล่อเลี้ยงขึ้นมามากเกินไปเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ น้ำส่วนเกินนี้จะสะสมภายในข้อเข่าและทำให้เกิดอาการบวมน้ำในที่สุด
3. เดินลงน้ำหนักไม่ได้
เมื่อลื่นล้มเข่ากระแทกแล้วมีอาการปวดเข่ามากจนเดินลงน้ำหนักไม่ได้ แม้จะผ่านไปกว่า 1 เดือนแล้ว อาการนี้เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกถึงการบาดเจ็บรุนแรงภายใน เช่น กระดูกอ่อนข้อเข่าอักเสบ หมอนรองกระดูกเข่าฉีกขาด หรือเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด หากมีอาการร่วมกับไข้ขึ้น หรือมีเสียงดังในเข่าควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นหลังล้มเข่ากระแทกพื้น
หากล้มหัวเข่ากระแทกพื้น และมั่นใจว่ากระดูกไม่หัก การปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธีจะช่วยลดอาการบาดเจ็บและบรรเทาความเจ็บปวดได้ดีขึ้น โดยใช้หลักการ R.I.C.E. ซึ่งเป็นวิธีเข่ากระแทกพื้น รักษาได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น
R (Rest)
R หรือ Rest หมายถึงการพักการใช้งาน การหยุดพักและลดการขยับเข่าที่บาดเจ็บจะช่วยลดอาการ ปวดเข่า และให้เวลาแก่ร่างกายในการซ่อมแซมตัวเอง หากจำเป็นต้องเดิน ควรหาไม้เท้าหรือไม้ค้ำมาช่วยพยุงเพื่อไม่ให้ลงน้ำหนักที่เข่ามากเกินไป
I (Ice)
I หรือ Ice คือการประคบเย็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ การประคบเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการ เข่าบวม ลดความเสี่ยงในการอักเสบที่รุนแรง และบรรเทาอาการปวดได้ โดยควรประคบครั้งละประมาณ 15-20 นาที วันละ 4 ครั้ง
C (Compression)
C หรือ Compression คือการใช้ผ้าพันชนิดยืดรัดบริเวณที่บาดเจ็บให้กระชับ เพื่อลดการเคลื่อนไหวของข้อเข่าและช่วยลดอาการบวมได้อีกทางหนึ่ง การพันผ้าจะช่วยให้คุณสามารถเคลื่อนไหวได้บ้างโดยไม่รู้สึกเจ็บมากจนเกินไป
E (Elevation)
E หรือ Elevation คือการยกขาให้สูงกว่าระดับหัวใจขณะนอนหลับหรือพักผ่อน การยกขาขึ้นจะช่วยให้เลือดไหลเวียนกลับสู่หัวใจได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมและอักเสบของเข่าให้หายเร็วขึ้น
หลังล้มเข่ากระแทกพื้นควรพบแพทย์ตอนไหน
แม้จะปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว อาการก็อาจไม่ดีขึ้นเสมอไป ดังนั้นจึงควรสังเกตอาการของตัวเองอย่างใกล้ชิดและไม่ลังเลที่จะไปพบแพทย์ หากมีอาการดังต่อไปนี้
เข่าบวมแดงและมีอาการปวดมาก
หากหลังล้มเข่ากระแทกพื้นแล้วมีอาการ เข่าบวม แดงและปวดอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะในขณะที่ขยับหรืออยู่นิ่ง ๆ ก็ตาม นั่นอาจเป็นสัญญาณของการบาดเจ็บภายในที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ เพื่อที่จะได้วางแผน วิธีรักษาอาการปวดหัวเข่า ที่เหมาะสมได้ทันที
อาการไม่ดีขึ้น
หากปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว แต่ผ่านไป 2-3 วันอาการก็ยังไม่ดีขึ้น หรือแย่ลงกว่าเดิม หรือล้มหัวเข่ากระแทกพื้นแล้วปวดนานเกิน 1 เดือน แสดงว่าการบาดเจ็บอาจรุนแรงกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่การช้ำภายนอก ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
มีอาการผิดปกติอื่น ๆ
นอกเหนือจากอาการปวดและบวมแล้ว หากพบอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ รู้สึกเหมือนกระดูกหลุด มีเสียงดังในเข่า หรือไม่สามารถลงน้ำหนักได้เลย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะนั่นอาจบ่งบอกถึงการบาดเจ็บรุนแรง เช่น กระดูกแตก หรือเอ็นขาด ที่ต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ
รวมข้อควรระวังสำคัญ
- อย่าปล่อยทิ้งไว้ : อาการปวดหลังล้มเข่ากระแทกพื้นที่ไม่หายขาดอาจนำไปสู่ปัญหาเรื้อรังได้ในอนาคต ดังนั้นอย่ามองข้าม
- สังเกตอาการ : หากอาการปวดไม่ดีขึ้นหลังการปฐมพยาบาล หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น บวมมากขึ้น หรือมีเสียงดังในเข่า ควรรีบไปพบแพทย์
- พักการใช้งาน : ให้เวลาเข่าได้พักอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ และอย่าเพิ่งกลับไปทำกิจกรรมที่ต้องใช้เข่าหนัก ๆ
- เลือกการรักษาที่ตรงจุด : หากอาการไม่ดีขึ้น ลองหาวิธีรักษาอาการปวดหัวเข่าที่เหมาะสม เช่น กายภาพบำบัด หรือการรักษาทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
สรุปบทความ
อุบัติเหตุล้มเข่ากระแทกพื้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่ควรปล่อยผ่านไป หากมีอาการปวด เข่าบวม หรือผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบสังเกตตัวเองและปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันที และหากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อการเข่ากระแทกพื้น รักษาที่ถูกต้อง หากคุณกำลังมีอาการปวดเข่าเรื้อรัง ไม่อยากผ่าตัด มีข้อเสื่อมจากอายุ หรือใช้งานหนัก ลุกนั่งลำบาก บวม ลงน้ำหนักไม่ได้ ให้มาใช้บริการที่ KLOSS Wellness Clinic เราพร้อมดูแลคุณอย่างเข้าใจ