ใครบอกว่าวิ่ง แล้วจะดีจริงเสมอไป?
ระวัง! วิ่งผิดท่า อาจเจ็บมากกว่าสุขภาพดี
การวิ่งถือเป็นหนึ่งในวิธีออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ได้ประโยชน์ครอบคลุมทั้งสุขภาพหัวใจ ปอด ระบบไหลเวียนเลือด ไปจนถึงกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แถมยังเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย
แต่… แม้การวิ่งจะดีแค่ไหน ถ้าทำผิดวิธีโดยไม่รู้ตัว อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บสะสม กลายเป็นปัญหาเรื้อรังได้โดยไม่ทันตั้งตัว
ปัญหาเกิดได้จากการวิ่งแบบผิดๆ
Patellofemoral Pain Syndrome
ปวดบริเวณหน้าลูกสะบ้าและรอบหัวเข่า เกิดจากการงอ-เหยียดเข่าซ้ำ ๆ และลงน้ำหนักผิดจุดAchilles Tendinitis
ปวด บวม หรือแดงบริเวณเอ็นร้อยหวายด้านหลังส้นเท้า มักเกิดจากการไม่ยืดกล้ามเนื้อก่อนวิ่ง หรือออกแรงกระโดดมากเกินไปIliotibial Band Syndrome
อาการปวดเข่าด้านข้างฝั่งนอกจากการวิ่ง โดยเฉพาะเมื่องอเข่าแล้วบิดเข้าPatellar Tendinitis
ปวดใต้ลูกสะบ้าหัวเข่า จากการกระโดดซ้ำ ๆ หรือลงน้ำหนักผิดจังหวะShin Splints
อักเสบบริเวณหน้าแข้ง เกิดจากการวิ่งระยะไกล เกร็งเท้าหรือวางเท้าผิดลักษณะPlantar Fasciitis (รองช้ำ)
ปวดใต้ฝ่าเท้าและส้น โดยเฉพาะก้าวแรกหลังตื่นนอน มักเกิดจากเท้าแบน หรือวิ่งบนพื้นแข็งบ่อย ๆ
เทคนิคที่ใช้หากเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น R.I.C.E
R – Rest: พักการใช้งานชั่วคราว เพื่อให้เนื้อเยื่อฟื้นตัว
I – Ice: ประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบ
C – Compress: พันกระชับหรือใส่อุปกรณ์พยุงเพื่อลดแรงกระแทก
E – Elevation: ยกบริเวณที่บาดเจ็บให้สูงกว่าระดับหัวใจ เพื่อลดอาการบวม
สรุป: วิ่งอย่างถูกวิธี ร่างกายจะแข็งแรงอย่างแท้จริง
การวิ่งที่ดี ควรเริ่มจากการ อบอุ่นร่างกาย, ยืดกล้ามเนื้อ, ใส่รองเท้าเหมาะกับสรีระเท้า และค่อย ๆ เพิ่มระยะหรือความเข้มข้นของการวิ่งอย่างเหมาะสม หากรู้สึกเจ็บหรือผิดปกติ ควรหยุดวิ่งและประเมินอาการโดยผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณมีอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง
ที่ Kloss Wellness Clinic เรามีโปรแกรมฟื้นฟูเฉพาะบุคคล พร้อมนักกายภาพบำบัด และเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณกลับมาวิ่งได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง