อาการเจ็บเอ็นหลังเข่า

รู้จักสาเหตุของการเจ็บเอ็นหลังเข่า พร้อมแชร์วิธีรักษาอาการปวดข้อพับเข่าด้านหลัง

Facebook

อาการปวดเข่าไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่ด้านหน้าหรือด้านข้างเท่านั้น แต่การเจ็บเอ็นหลังเข่าก็เป็นปัญหาที่สร้างความกังวลไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อต้องเคลื่อนไหวหรือใช้ชีวิตประจำวัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุและ วิธีรักษาอาการปวดข้อพับเข่าด้านหลัง เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง

เจ็บเอ็นหลังเข่า คืออะไร

การเจ็บเอ็นหลังเข่า หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า เอ็นหลังเข่าอักเสบ เป็นอาการปวดที่เกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อบริเวณข้อพับเข่าด้านหลัง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังกับกระดูกหน้าแข้ง เมื่อเกิดการอักเสบจะทำให้รู้สึกตึง ปวด หรือมีอาการไม่สบาย โดยเฉพาะเมื่อต้องงอเข่าหรือเหยียดขา

อาการเจ็บเอ็นหลังเข่า

อาการเจ็บเอ็นหลังเข่ามักแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ ที่สังเกตได้ง่าย เช่น รู้สึกปวดหรือตึงบริเวณข้อพับเข่าด้านหลัง โดยเฉพาะเมื่อต้องทำกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังอย่างหนัก เช่น การวิ่ง การกระโดด หรือการขึ้นลงบันได บางครั้งอาจมีอาการเส้นเอ็นหลังเข่าตึงร่วมด้วย และอาจมีอาการ เข่าบวม หรือรู้สึกร้อนบริเวณที่ปวด หากอาการรุนแรงอาจทำให้ขยับเข่าได้ลำบาก

เจ็บเอ็นหลังเข่า เกิดจากอะไร

อาการเจ็บเอ็นหลังเข่า

อาการเจ็บเอ็นหลังเข่า หรือเอ็นหลังเข่าอักเสบ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่มาจากการใช้งานหนักหรือการเคลื่อนไหวที่ผิดท่า เช่น การเล่นกีฬาที่ต้องวิ่งและกระโดดซ้ำๆ โดยไม่มีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่เพียงพอ นอกจากนี้อาจเกิดจากการได้รับบาดเจ็บเฉียบพลัน การใช้งานในท่าเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน หรืออาจเป็นผลมาจากโรคข้อเข่าเสื่อมก็ได้

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงเจ็บเอ็นหลังเข่า

อาการเจ็บเอ็นหลังเข่า สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่กลุ่มคนต่อไปนี้จะมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ

  • นักกีฬา เช่น นักวิ่ง นักฟุตบอล หรือนักบาสเกตบอล ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณหลังเข่าอย่างหนักและต่อเนื่อง
  • ผู้ที่ทำงานที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเข่ามาก ทำให้ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากเกินไป
  • ผู้สูงอายุ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ความยืดหยุ่นของเส้นเอ็นจะลดลง ทำให้เกิดการอักเสบหรือฉีกขาดได้ง่ายกว่าปกติ
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เพราะจะทำให้ข้อเข่าต้องแบกรับแรงกดทับมากกว่าปกติ เพิ่มโอกาสในการเกิดการอักเสบของเส้นเอ็น

การตรวจวินิจฉัยเจ็บเอ็นหลังเข่า

หากมีอาการเจ็บเอ็นหลังเข่า และไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

  • นักกีฬา เช่น นักวิ่ง นักฟุตบอล หรือนักบาสเกตบอล ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณหลังเข่าอย่างหนักและต่อเนื่อง
  • ผู้ที่ทำงานที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเข่ามาก ทำให้ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากเกินไป
  • ผู้สูงอายุ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ความยืดหยุ่นของเส้นเอ็นจะลดลง ทำให้เกิดการอักเสบหรือฉีกขาดได้ง่ายกว่าปกติ
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เพราะจะทำให้ข้อเข่าต้องแบกรับแรงกดทับมากกว่าปกติ เพิ่มโอกาสในการเกิดการอักเสบของเส้นเอ็น

การเอกซเรย์

การเอกซเรย์เป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินสภาพของกระดูกและข้อต่อได้ในเบื้องต้น และช่วยแยกแยะว่าอาการปวดนั้นเกิดจากปัญหาที่กระดูกหรือข้อต่อหรือไม่ ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง

การอัลตร้าซาวด์

การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง หรืออัลตร้าซาวด์ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้เห็นภาพเนื้อเยื่ออ่อน เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อภายในข้อเข่าได้อย่างชัดเจน ทำให้แพทย์สามารถตรวจหาความผิดปกติ เช่น รอยฉีกขาดเล็กๆ หรือการอักเสบของเส้นเอ็นที่อยู่บริเวณข้อพับเข่าได้อย่างแม่นยำ

การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)

การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ถือเป็นวิธีที่มีความละเอียดสูงที่สุด โดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุในการสร้างภาพอวัยวะภายใน ทำให้สามารถเห็นความเสียหายของเส้นเอ็นและเนื้อเยื่ออ่อนได้อย่างชัดเจน รวมถึงรอยแตกของกระดูกที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากการเอกซเรย์ธรรมดา

วิธีรักษาเจ็บเอ็นหลังเข่า

อาการเจ็บเอ็นหลังเข่า

วิธีรักษาอาการปวดหัวเข่า ที่เกิดจากเอ็นหลังเข่าอักเสบมีหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลตัวเองเบื้องต้น ไปจนถึงการรักษาทางการแพทย์

วิธีการรักเจ็บเอ็นหลังเข่าเบื้องต้น

สำหรับอาการปวดที่ไม่รุนแรงมากนัก สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

ประคบเย็น

การประคบเย็นเป็นวิธีที่ช่วยลดอาการปวดเจ็บเอ็นหลังเข่า และลดอาการบวมในระยะเฉียบพลันได้เป็นอย่างดี โดยใช้ถุงน้ำแข็งหรือเจลเย็นห่อด้วยผ้าขนหนู แล้วนำไปประคบบริเวณที่มีอาการประมาณ 15-20 นาที ทำซ้ำได้บ่อยๆ ทุก 1-2 ชั่วโมง

ออกกำลังกายด้วยท่าบริหารกล้ามเนื้อ

การยืดเหยียดและเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและรอบๆ ข้อเข่าจะช่วยลดอาการเส้นเอ็นหลังเข่าตึง และป้องกันการบาดเจ็บซ้ำได้ ควรเริ่มจากท่าที่ไม่ต้องใช้แรงกระแทกมาก และทำอย่างสม่ำเสมอภายใต้คำแนะนำของนักกายภาพบำบัด

วิธีรักษาเจ็บเอ็นหลังเข่าทางการแพทย์

หากอาการไม่ดีขึ้น หรือปวดรุนแรง ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ ดังนี้

รับประทานยาแก้ปวด

แพทย์อาจพิจารณาให้ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบของเส้นเอ็นในระยะสั้น แต่การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย

ทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดเป็นวิธีที่สำคัญในการรักษาอาการเอ็นหลังเข่าอักเสบ โดยนักกายภาพบำบัดจะออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคล เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่น และแก้ไขปัญหาการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

ฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์

ในกรณีที่มีการอักเสบเรื้อรังและรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์เข้าไปในบริเวณที่มีอาการเพื่อลดการอักเสบได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การฉีดควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และไม่ควรฉีดบ่อยเกินไป เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อเส้นเอ็นได้

ผ่าตัด

การผ่าตัดเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับการรักษาอาการเจ็บเอ็นหลังเข่าที่มีความรุนแรงมาก เช่น เส้นเอ็นฉีกขาด หรือมีภาวะถุงน้ำในข้อพับเข่า การผ่าตัดจะช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและฟื้นฟูโครงสร้างของข้อเข่าให้กลับมาเป็นปกติ

แนวทางการป้องกันการเจ็บเอ็นหลังเข่า

การดูแลและป้องกันตัวเองจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดข้อพับเข่าด้านหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • อบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกายเสมอ โดยเฉพาะการยืดเหยียดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและกล้ามเนื้อน่อง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเอ็น
  • เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น รองเท้าที่รองรับแรงกระแทกได้ดี และเหมาะสมกับประเภทกีฬาที่เล่น
  • ควบคุมน้ำหนักตัว น้ำหนักที่เกินเกณฑ์จะเพิ่มภาระให้กับข้อเข่า ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบของเส้นเอ็นได้ง่ายขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อบำรุงสุขภาพกระดูกและข้อ โดยเฉพาะการกินอะไรบำรุงหัวเข่า เช่น อาหารที่มีแคลเซียมและคอลลาเจน
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานเข่าหนักเกินไป เช่น การนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานาน หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้เข่าซ้ำๆ อย่างหนัก

สรุปบทความ

อาการเจ็บเอ็นหลังเข่า หรือเอ็นหลังเข่าอักเสบ ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ หากคุณมีอาการปวดข้อพับเข่าด้านหลัง หรือมีข้อเข่าเสื่อมจากอายุ หรือใช้งานหนักจนลุกนั่งลำบาก เข่าบวม หรือลงน้ำหนักไม่ได้ ที่ KLOSS Wellness Clinic เราพร้อมดูแลสุขภาพข้อและกระดูกของคุณอย่างครอบคลุม โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้คุณกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไร้กังวล

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Kloss Wellness Clinic มี 3 สาขา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
LOGO KLOSS WELLNESS CLINIC

BOOKING

 กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
กรุณาเลือก Promotions ที่คุณสนใจ
*** สงวนสิทธิ์ 1 คน / 1 สิทธิ์