การรักษาด้วย EECP (Enhanced External Counterpulsation) ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังไตและช่วยปรับปรุงการกรองของเสียในไต อีกทั้งยังลดฮอร์โมนที่เป็นอันตรายซึ่งเพิ่มความดันโลหิตและทำให้ไตเสียหาย
ไตทั้งสองข้างในร่างกายทำหน้าที่เหมือนระบบกำจัดขยะ ทุกสิ่งที่เป็นของเสียจากการเผาผลาญในร่างกายจะถูกกรองผ่านไตและขับออกทางปัสสาวะ ไตมีบทบาทสำคัญในการกำจัดน้ำส่วนเกิน ควบคุมสมดุลอิเล็กโทรไลต์ และควบคุมความดันโลหิต
เราเริ่มพึ่งพาไตมากขึ้นกว่าที่เคย อาจเป็นเพราะการใช้ยารักษาโรคต่าง ๆ และอาหารเสริมที่หลากหลาย ทุกสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องถูกขับออกทางไต สาเหตุที่พบมากที่สุดของการล้มเหลวของไตคือโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง หากทั้งสองภาวะนี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม สุดท้ายจะส่งผลกระทบต่อไตและทำให้ไตล้มเหลว
การป้องกันแต่เนิ่น ๆ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะไตล้มเหลวได้อย่างมาก
ขั้นตอนในการป้องกันการล้มเหลวของไต: ขั้นตอนที่คุณควรปฏิบัติตามเพื่อสุขภาพไต ได้แก่:
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ลดน้ำหนักหากมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
- ควบคุมความดันโลหิตและเบาหวาน
- เลิกสูบบุหรี่
- การดื่มน้ำให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะยาบรรเทาปวด
EECP ปรับปรุงการกรองของไต: การรักษาด้วย EECP สามารถเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังไตได้ถึง 21% การเพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้ไตกรองของเสียจากเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการศึกษาหนึ่งจากอินเดีย แม้ในผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจและไตขั้นรุนแรง การรักษาด้วย EECP ก็ยังแสดงให้เห็นว่าอัตราการกรองของไต (GFR) ซึ่งเป็นการวัดการทำงานของไต เพิ่มขึ้นได้ถึง 20%
EECP ยังช่วยลดฮอร์โมนที่เป็นอันตราย เช่น เอ็นโดเทลินและเรนิน ซึ่งทำให้หลอดเลือดหดตัวและเพิ่มความดันโลหิตลงได้ 75-80% ในระหว่างการรักษาด้วย EECP อีกทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณปัสสาวะและช่วยขับโซเดียมและคลอไรด์ส่วนเกินออกจากร่างกาย ผลกระทบเหล่านี้บ่งชี้ว่า EECP อาจเป็นการรักษาที่มีประโยชน์ในการป้องกันไตล้มเหลวและเพิ่มการทำงานของไตเมื่อความเสียหายยังคงน้อย
ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคไต การรักษาด้วย EECP ในระยะป้องกันจะมีประโยชน์อย่างมากในการป้องกันการล้มเหลวของไต
Research Articles:
Pneumatic external counterpulsation: a new noninvasive method to improve organ perfusion – PubMed
https://www.ahajournals.org/doi/10.1161/circ.134.suppl_1.12028