อาการชาที่หัวเข่าไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าที่คิด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาหรือทำงานในออฟฟิศก็มีโอกาสเผชิญปัญหานี้ได้ อาการชาอาจเป็นผลจากการใช้งานข้อเข่าหนักเกินไป หรืออาจเป็นสัญญาณของโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกระดูก เรามาดูกันว่าอาการเข่าชา หัวเข่าชา เกิดจากอะไรและจะรับมืออย่างไรให้ถูกต้อง
อาการเข่าชา หัวเข่าชา คืออะไร
อาการชาเข่า หรือชาหัวเข่า คืออาการที่เราสูญเสียความรู้สึกบริเวณหัวเข่า ซึ่งอาจเกิดขึ้นชั่วขณะหรือเป็นต่อเนื่อง โดยมักเกิดร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปวดเสียว หรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทง บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้ออ่อนแรงจนไม่สามารถลงน้ำหนักได้ อาการเหล่านี้บ่งชี้ถึงความผิดปกติของระบบประสาทหรือการไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดี
อาการเข่าชาเกิดจากอะไร
อาการเข่าชา สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ บางอย่างไม่รุนแรงแต่บางอย่างก็เป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลอย่างจริงจัง สาเหตุเหล่านี้อาจมาจากการใช้งานหนัก การขาดสารอาหาร หรือแม้แต่โรคประจำตัวบางชนิด
ขาดวิตามินบี
วิตามินบีมีบทบาทสำคัญในการบำรุงและซ่อมแซมระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากร่างกายขาดวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี 12 อาจส่งผลให้เส้นประสาทส่วนปลายทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการชาเข่า ปลายมือปลายเท้าได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้มีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย จึงควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบีอย่างสม่ำเสมอ
การกดทับเส้น
การอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ เช่น นั่งไขว่ห้าง นั่งพับเพียบ หรือนั่งยอง ๆ อาจทำให้เส้นประสาทและหลอดเลือดบริเวณเข่าถูกกดทับจนเลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้เกิดอาการชาหรือเป็นเหน็บชาได้ การเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ หรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงจากการกดทับเส้นได้
โรคเบาหวาน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดภาวะเส้นประสาทเสื่อมหรือปลายประสาทอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการชา โดยเฉพาะบริเวณปลายมือปลายเท้าและ หัวเข่าชา หากไม่ควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี อาการเหล่านี้อาจรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นความเจ็บปวดเรื้อรัง และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้
แนวทางแก้อาการเข่าชา
เมื่อเกิดอาการชาเข่า ควรพิจารณาแนวทางรักษาที่เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของอาการ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
1. รักษาเมื่ออาการไม่รุนแรง
หากอาการชาเข่า เป็นเพียงเล็กน้อยและเกิดขึ้นชั่วคราวจากการอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ ควรเริ่มจากการเปลี่ยนอิริยาบถ และลองยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างช้า ๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นประสาท เช่น อาหารเสริมวิตามินบี ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการได้
2. รักษาเมื่ออาการรุนแรงต่อเนื่อง
ในกรณีที่อาการเข่าชา ยังคงอยู่แม้จะเปลี่ยนท่าทางแล้ว หรือมีอาการเป็นต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านการอักเสบของเส้นประสาท หรือในบางกรณีที่รุนแรงมากอาจจำเป็นต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อคลายการกดทับเส้นประสาท
3. รักษาตามอาการ
การรักษาอาการชาเข่า ที่เกิดจากโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จะต้องมุ่งเน้นการรักษาที่ต้นเหตุของโรคควบคู่ไปด้วย เพื่อบรรเทาอาการไม่ให้รุนแรงขึ้น แพทย์จะแนะนำแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล อาจรวมถึงการให้ยาหรือวิตามินที่จำเป็นเพื่อช่วยบำรุงระบบประสาท
วิธีรักษาทางการแพทย์
หากอาการชา หัวเข่าชา ไม่ดีขึ้นจากการดูแลตัวเองเบื้องต้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคือทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อรับการรักษาที่ตรงจุดและเหมาะสมกับอาการ
ทานยาแก้ปวด
ในระยะแรกของการรักษา แพทย์อาจพิจารณาให้ยาแก้ปวดหรือยาต้านการอักเสบเพื่อลดอาการปวดและบวม แต่การทานยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะการใช้ยาอย่างต่อเนื่องหรือในปริมาณที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้
ฉีดยาสเตียรอยด์
การฉีดยาสเตียรอยด์เป็นวิธีที่ช่วยลดอาการอักเสบและปวดได้อย่างรวดเร็ว มักใช้ในกรณีที่อาการรุนแรงเฉียบพลันหรือผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาชนิดอื่น อย่างไรก็ตาม การฉีดสเตียรอยด์ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เพราะการใช้บ่อยเกินไปอาจทำให้เส้นเอ็นหรือกระดูกอ่อนเสื่อมสภาพได้
ฉีดเซลล์จากตัวเอง
การรักษาด้วยการ ฉีดเซลล์จากตัวเอง เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหายเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เซลล์เหล่านี้จะถูกนำไปฉีดบริเวณที่มีปัญหา เช่น ข้อเข่าที่มีอาการชาเข่า หรือเข่าบวม เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมตามธรรมชาติ ช่วยให้หัวเข่ากลับมาแข็งแรงขึ้นและลดอาการชาได้
ทำกายภาพบำบัด
การ ทำกายภาพบำบัด โดยนักกายภาพบำบัดมืออาชีพเป็นหนึ่งในวิธีรักษาอาการปวดหัวเข่าที่มีประสิทธิภาพสูง กายภาพบำบัดจะเน้นการบริหารกล้ามเนื้อต้นขาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและช่วยให้กล้ามเนื้อรอบหัวเข่าทำงานได้อย่างสมดุล ซึ่งช่วยลดการกดทับของเส้นประสาทและลดอาการชาได้ในระยะยาว
ใช้เครื่องมือทางการแพทย์
ปัจจุบันมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยมากมายที่ช่วยบรรเทาอาการปวดและชาได้ เช่น เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง (HPL) ที่สามารถส่งพลังงานลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมและลดอาการปวด โดยไม่ต้องทานยา
ใช้พลังงานคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
เทคโนโลยีคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยฟื้นฟูข้อเข่าได้อย่างดีเยี่ยม โดยจะปล่อยพลังงานคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อในบริเวณข้อเข่า ซึ่งจะช่วยลดอาการเข่าชา และเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว
คำถามที่พบบ่อย
เวลาเดินแล้วเข่าชาเกิดจากอะไร
อาการชาหัวเข่าขณะเดินอาจเกิดจากการกดทับของเส้นประสาทในระหว่างการเคลื่อนไหว หรืออาจเป็นสัญญาณของปัญหาในข้อเข่า เช่น ข้อเข่าเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกทับเส้น
เข่าชาขาดวิตามินอะไร
อาการชาเข่า สัมพันธ์โดยตรงกับการขาดวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงและซ่อมแซมระบบประสาท
อาการเข่าชาแบบไหนควรพบแพทย์
หากมีอาการเข่าชา ต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีอาการชาที่ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วขณะหลังจากการนั่งผิดท่า ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที
สรุปบทความ
อาการเข่าชา ชาหัวเข่า อาจเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่หากละเลยก็อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคุณได้ การทำความเข้าใจสาเหตุและแนวทางการรักษาที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากคุณกำลังมีอาการปวด ชาหัวเข่า หรืออาการเข่าบวมเรื้อรัง ไม่อยากผ่าตัด มีข้อเสื่อมจากอายุหรือการใช้งานหนัก ลุกนั่งลำบาก และลงน้ำหนักไม่ได้ ลองปรึกษา KLOSS Wellness Clinic ที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาและฟื้นฟูข้อเข่าโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง เรามีนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง