เคยเป็นไหม? ปวดตึงบริเวณข้อมือฝั่งนิ้วหัวแม่มือ…
แค่ บิดฝาขวด ก็เจ็บ แค่ อุ้มลูก ก็ปวด หรือแม้แต่แค่ ขยับนิ้วหัวแม่มือ ก็รู้สึกลำบาก?
หากคุณกำลังมีอาการเหล่านี้นั่นอาจไม่ใช่แค่ “เมื่อย” ธรรมดา
แต่อาจเป็นสัญญาณของ “ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ” (De Quervain’s Tenosynovitis) ภาวะที่มักเกิดขึ้นกับคนที่ใช้งานมือซ้ำ ๆ โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอดและคนทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ
ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ (De Quervain’s Tenosynovitis) คืออะไร?
De Quervain’s Tenosynovitis คือภาวะที่เกิดการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นบริเวณข้อมือฝั่งนิ้วหัวแม่มือ โดยเฉพาะบริเวณที่เส้นเอ็นสองเส้น ได้แก่
🔹 Abductor Pollicis Longus (APL)
🔹 Extensor Pollicis Brevis (EPB)
เคลื่อนที่ผ่านปลอกหุ้มเอ็นเดียวกัน เมื่อเกิดการอักเสบในจุดนี้ จะทำให้ปลอกหุ้มเอ็นบวมและหนาขึ้น จนเกิดการเสียดสีกับเส้นเอ็นขณะเคลื่อนไหว
ลักษณะอาการของปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
- ปวดบริเวณข้อมือฝั่งนิ้วหัวแม่มือ
อาการปวดมักเกิดที่ข้อมือบริเวณที่ปลอกหุ้มเอ็นอักเสบ (ด้านข้างของข้อมือที่ใกล้กับนิ้วหัวแม่มือ) อาการปวดมักรุนแรงขึ้นเมื่อใช้งานข้อมือ เช่น การยกของ การหมุนข้อมือ หรือการจับสิ่งของ อาการอาจเริ่มจากอาการปวดเล็กน้อยและค่อย ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อปล่อยทิ้งไว้
- บวมที่ข้อมือ
บริเวณที่ปลอกหุ้มเอ็นอักเสบจะบวมขึ้น เนื่องจากการสะสมของน้ำและสารเคมีจากการอักเสบ บวมจะเห็นชัดเจนบริเวณข้อมือใกล้กับนิ้วหัวแม่มือ
- การเคลื่อนไหวข้อมือและนิ้วมือจำกัด
อาจรู้สึกฝืดหรือเคลื่อนไหวข้อมือได้ไม่สะดวกอาจเกิดเสียง “กรึ๊บ” หรือ “คลิก” เมื่อข้อมือหรือข้อนิ้วเคลื่อนไหวขยับข้อมือหรือนิ้วหัวแม่มือไปในทิศทางที่ต้องใช้การบิดหรือหมุนอาจทำให้ปวดมากขึ้น
- อาการปวดร้าวไปที่นิ้วมือ
อาการปวดอาจลามไปถึงนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้อาจมีอาการ ชา หรือ รู้สึกผิดปกติ ที่นิ้วมือเนื่องจากการกดทับเส้นประสาท
- อาการรุนแรงขึ้นเมื่อใช้งาน
อาการมักแย่ลงเมื่อข้อมือถูกใช้งาน เช่น การยกของ, อุ้มเด็ก, หรือทำงานที่ต้องใช้ข้อมือหมุนบ่อย ๆการจับสิ่งของหรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากอาจทำให้อาการปวดทวีความรุนแรง
- ความรู้สึกฝืด หรือ ตึง
อาจรู้สึกตึงที่ข้อมือหรือบริเวณนิ้วหัวแม่มือ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อได้พักหรือหยุดใช้งานข้อมือ
สาเหตุที่พบบ่อย
- การใช้ข้อมือซ้ำ ๆ เช่น การจับสิ่งของ หรือการ บิดข้อมือ เช่น การหมุนไขควง หรือการขยับข้อมือในลักษณะหมุนไปมาเป็นเวลานาน
ตัวอย่างกิจกรรมที่ทำให้เกิดการใช้งานข้อมือซ้ำ ๆ ได้แก่ การ พิมพ์คอมพิวเตอร์, ใช้เมาส์, การเขียน, หรือ การทำงานที่ต้องใช้ข้อมือบ่อย ๆ
- การอุ้มเด็กหรือการยกของหนัก มักมีความเสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ การจับหรือลิฟต์ของหนักด้วยข้อมืออาจทำให้เส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นเกิดการระคายเคือง
- การตั้งครรภ์และการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนทำให้เส้นเอ็นมีความไวต่อการบาดเจ็บหรือการอักเสบมากขึ้น หลังคลอดผู้หญิงบางคนอาจพบอาการนี้ เนื่องจากการอุ้มทารกบ่อย ๆ ซึ่งต้องใช้ข้อมือและแขนในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
- โรคเกี่ยวกับข้อและเส้นเอ็น โรคข้ออักเสบ (Arthritis) หรือ โรคข้อเสื่อม อาจทำให้ข้อมือเกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการทำลายของข้อและเอ็น โรคเบาหวาน หรือ โรคเก๊าท์ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือได้
- การบาดเจ็บจากการกระแทกหรือการตก การกระแทกหรือบาดเจ็บที่ข้อมือ เช่น การตกลงจากที่สูง หรือการได้รับการกระทบกระแทกที่ข้อมือ อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรืออักเสบของปลอกหุ้มเอ็นได้
- การทำงานที่ต้องใช้การบิดข้อมือบ่อย ๆ งานที่ต้องบิดข้อมือหรือหมุนข้อมือไปมามาก ๆ เช่น การ ทำอาหาร, การปักผ้า, หรือ การทำงานฝีมือ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็น
- อายุและเพศ ผู้หญิง มักจะมีโอกาสเกิดภาวะนี้มากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในช่วงอายุ 30-50 ปี และในบางกรณีหลังการตั้งครรภ์หรือคลอดบุตร
- พันธุกรรม บางคนอาจมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบเนื่องจากลักษณะทางพันธุกรรม
หากคุณกำลังเจอปัญหาปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ?
อย่าปล่อยให้อาการปวดข้อมือรบกวนคุณ! รับคำปรึกษาและการรักษาที่ Kloss Wellness Clinic พร้อมฟื้นฟูสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการบริการที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาข้อมือของคุณ
📍 สาขาเสรีไทย : 099-265-2495
📍 สาขาเมืองทองธานี : 099-246-3691
📍 สาขาบางนา : 094-559-4939
📲 LINE ID : @kimc289 (มี @)
ให้เราช่วยดูแลคุณอย่างมืออาชีพ เพื่อชีวิตที่ไม่มีอาการปวดข้อมืออีกต่อไป!