ท่าทางและวิธีการที่ควรทราบ

Facebook
Twitter

บทความเพิ่มเติม

ข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เกิดจากกระดูกอ่อนของข้อเข่า หรือผิวข้อสึกกร่อน เมื่อไม่มีผิวกระดูกอ่อนมาห่อหุ้ม เนื้อกระดูกที่มาชนกันขณะรับน้ำหนักจึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวด

ถ้าเกิดอาการเรื้อรัง กระดูกจะมีการซ่อมแซมตัวเองจนเกิดเป็นกระดูกงอกขรุขระขึ้นภายในข้อ ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวติดขัด และมีเสียงดัง

ในผู้ป่วยที่มีอาการมากแล้วจะมีแนวแกนขาผิดปกติ ขาอาจโก่งเข้าด้านในหรือบิดออกนอก และทำให้การรับน้ำหนักของข้อเข่าผิดปกติได

อาการแบบไหน ? สงสัยข้อเข่าเสื่อม

  • ปวดมากเมื่อคุกเข่า นั่งพับเพียบ ลุกนั่ง ขึ้นลงบันได และอาการจะดีขึ้นเมื่อหยุดพัก
  • เมื่อขยับข้อรู้สึกถึงการเสียดสี หรือมีเสียงในเข่าขณะเคลื่อนไหว
  • มีอาการฝืดขัดข้อเข่า โดยเฉพาะตอนเช้าและเมื่อหยุดเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
  • ข้อเข่าติด เหยียดหรืองอเข่าได้ไม่สุด
  • เข่าบวมแดงหรือโต มีน้ำภายในข้อจากการอักเสบ
  • กล้ามเนื้อขาลีบเล็กลงกว่าข้างปกติ
  • เมื่อข้อเข่าเสื่อมมากขึ้นและเรื้อรัง จะพบข้อเข่าโก่ง หลวมหรือเบี้ยวผิดรูป

ใครบ้าง ? มีความเสี่ยงเป็นข้อเข่าเสื่อม

  • อายุมากขึ้น มักพบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
  • น้ำหนักตัวมาก ดัชนีมวลกาย BMI มากกว่า 23
  • ใช้ข้อเข่ามาก โดยเฉพาะการนั่งยองๆ พับเพียบ คุกเข่า
  • เคยได้รับบาดเจ็บที่เข่า
  • กล้ามเนื้อต้นขาไม่แข็งแรง
  • เกิดจากโรคข้ออักเสบชนิดอื่น ๆ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกาต์

แนวทางการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

  1. ควรควบคุมน้ำหนักตัว น้ำหนักตัวมีผลอย่างมากต่อการเสื่อมของข้อเข่า เมื่อน้ำหนักตัวมากเกินไป มันจะสร้างความกดที่ข้อเข่าทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อเข่าเสื่อม การควบคุมน้ำหนักตัวด้วยการออกกำลังกายและรักษาพฤติกรรมการกินอย่างมีสติสำคัญมาก อาจใช้คำปรึกษากับหมอหรือโฮมีโอทระยะเริ่มแรกเพื่อกำหนดแผนการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  2. การกายภาพบำบัด การกายภาพบำบัดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการรักษาข้อกระดูกข้อเข่าเสื่อม โดยการทำกายภาพบำบัดที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับข้อเข่า นอกจากนี้ กายภาพบำบัดยังช่วยลดอาการปวดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าให้แข็งแรงขึ้น
  3. การทายาสามัญ การทายาสามัญ เช่น ยาระบายอักเสบ และยาระบายปวด เป็นทางเลือกที่สามารถลดอาการปวดและอักเสบในข้อเข่าได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  4. การผ่าตัด ในกรณีที่ปัญหาข้อเข่ามีความรุนแรงและไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการอื่นได้ อาจจำเป็นต้องพิจารณาการผ่าตัด เช่น การส่องกล้องฉีดยา หรือการทำการชดเชยข้อเข่า เพื่อปรับปรุงสภาพข้อเข่า
  5. การดูแลต่อเนื่อง หลังจากการรักษาเสร็จสิ้น ควรดูแลต่อเนื่องโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของข้อเข่า รวมถึงควรปฏิบัติพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายที่เหมาะสม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Kloss Wellness Clinic มี 3 สาขา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

BOOKING

 กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
กรุณาเลือก Promotions ที่คุณสนใจ
*** สงวนสิทธิ์ 1 คน / 1 สิทธิ์