ข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เกิดจากกระดูกอ่อนของข้อเข่า หรือผิวข้อสึกกร่อน เมื่อไม่มีผิวกระดูกอ่อนมาห่อหุ้ม เนื้อกระดูกที่มาชนกันขณะรับน้ำหนักจึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวด
ถ้าเกิดอาการเรื้อรัง กระดูกจะมีการซ่อมแซมตัวเองจนเกิดเป็นกระดูกงอกขรุขระขึ้นภายในข้อ ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวติดขัด และมีเสียงดัง
ในผู้ป่วยที่มีอาการมากแล้วจะมีแนวแกนขาผิดปกติ ขาอาจโก่งเข้าด้านในหรือบิดออกนอก และทำให้การรับน้ำหนักของข้อเข่าผิดปกติได
อาการแบบไหน ? สงสัยข้อเข่าเสื่อม
- ปวดมากเมื่อคุกเข่า นั่งพับเพียบ ลุกนั่ง ขึ้นลงบันได และอาการจะดีขึ้นเมื่อหยุดพัก
- เมื่อขยับข้อรู้สึกถึงการเสียดสี หรือมีเสียงในเข่าขณะเคลื่อนไหว
- มีอาการฝืดขัดข้อเข่า โดยเฉพาะตอนเช้าและเมื่อหยุดเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
- ข้อเข่าติด เหยียดหรืองอเข่าได้ไม่สุด
- เข่าบวมแดงหรือโต มีน้ำภายในข้อจากการอักเสบ
- กล้ามเนื้อขาลีบเล็กลงกว่าข้างปกติ
- เมื่อข้อเข่าเสื่อมมากขึ้นและเรื้อรัง จะพบข้อเข่าโก่ง หลวมหรือเบี้ยวผิดรูป
ใครบ้าง ? มีความเสี่ยงเป็นข้อเข่าเสื่อม
- อายุมากขึ้น มักพบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป
- พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
- น้ำหนักตัวมาก ดัชนีมวลกาย BMI มากกว่า 23
- ใช้ข้อเข่ามาก โดยเฉพาะการนั่งยองๆ พับเพียบ คุกเข่า
- เคยได้รับบาดเจ็บที่เข่า
- กล้ามเนื้อต้นขาไม่แข็งแรง
- เกิดจากโรคข้ออักเสบชนิดอื่น ๆ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกาต์
แนวทางการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
- ควรควบคุมน้ำหนักตัว น้ำหนักตัวมีผลอย่างมากต่อการเสื่อมของข้อเข่า เมื่อน้ำหนักตัวมากเกินไป มันจะสร้างความกดที่ข้อเข่าทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อเข่าเสื่อม การควบคุมน้ำหนักตัวด้วยการออกกำลังกายและรักษาพฤติกรรมการกินอย่างมีสติสำคัญมาก อาจใช้คำปรึกษากับหมอหรือโฮมีโอทระยะเริ่มแรกเพื่อกำหนดแผนการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- การกายภาพบำบัด การกายภาพบำบัดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการรักษาข้อกระดูกข้อเข่าเสื่อม โดยการทำกายภาพบำบัดที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับข้อเข่า นอกจากนี้ กายภาพบำบัดยังช่วยลดอาการปวดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าให้แข็งแรงขึ้น
- การทายาสามัญ การทายาสามัญ เช่น ยาระบายอักเสบ และยาระบายปวด เป็นทางเลือกที่สามารถลดอาการปวดและอักเสบในข้อเข่าได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- การผ่าตัด ในกรณีที่ปัญหาข้อเข่ามีความรุนแรงและไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการอื่นได้ อาจจำเป็นต้องพิจารณาการผ่าตัด เช่น การส่องกล้องฉีดยา หรือการทำการชดเชยข้อเข่า เพื่อปรับปรุงสภาพข้อเข่า
- การดูแลต่อเนื่อง หลังจากการรักษาเสร็จสิ้น ควรดูแลต่อเนื่องโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของข้อเข่า รวมถึงควรปฏิบัติพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายที่เหมาะสม